การเลือกประเภทแบตเตอรี่รถยนต์
แบตเตอรี่รถยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่เก็บกระแสไฟฟ้าไว้สำหรับจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆในรถยนต์ โดยปกติแบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี หรือมากกว่านั้น ถ้าหากแบตเตอรี่หมดไปจะทำให้เราสตาร์ทรถไม่ติด ซึ่งต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ ดังนั้นเรามีเคล็ดลับในการเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ ที่ช่วยให้คุณได้สินค้าที่มีคุณภาพถูกต้องเหมาะสม และราคาประหยัดมาฝากครับ
เลือกขนาดแอมแปร์
แบตเตอรี่รถยนต์ต้องเลือกแอมแปร์ให้พอดีหรือมากกว่านิดหน่อย แบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมแปร์มากกว่า จะใช้งานได้ทนทานกว่าแบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมแปร์น้อยกว่า (แต่แอมป์ยิ่งมากราคายิ่งสูง) ดังนี้
รถญี่ปุ่น เครื่อง 1200-1900 ซีซี เลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 45-60 แอมป์
รถญี่ปุ่น เครื่อง 2000-3000 ซีซี เลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60-75 แอมป์
รถยุโรป เครื่อง 2000-3000 ซีซี เลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 75 แอมป์
รถยุโรป เครื่อง 2800-4000 ซีซี เลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 100 แอมป์
รถกระบะ เครื่อง 2000-3000 ซีซี เลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 70-90 แอมป์
เลือกประเภทของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่รถยนต์ปัจจุบันนี้ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1. แบตเตอรี่เปียก (กรดตะกั่ว)
เหมาะสำหรับผู้ที่ดูแลรักษารถเป็นประจำ และใช้รถเป็นประจำทุกวัน เพราะต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยอย่างน้อยก็ควรเดือนละครั้ง เพื่อรักษาปริมาณน้ำกลั่นให้เหมาะสม
ลักษณะเด่น – มีราคาถูก, มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดถ้าดูแลอย่างสม่ำเสมอ
2. แบตเตอรี่กึ่งแห้ง MF (maintenance free)
พัฒนามาจากแบตเตอรี่ชนิดเติมน้ำกลั่น ถูกออกแบบมาให้มีการสูญเสียน้ำกลั่นน้อยมาก (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) ด้วยการคิดสูตรผสมแผ่นธาตุใหม่ผสมแคลเซียม (Calcium) ทำให้การระเหยของไอกรดต่ำ ต้องเติมน้ำกลั่นบ้าง และตรวจเช็คอย่างน้อยครึ่งปีครั้ง
ลักษณะเด่น – มีราคาปานกลาง, อายุการใช้งานปานกลาง
3. แบตเตอรี่แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free Car Battery)
แบบแห้งของเมืองนอกจะใช้เจลหรือซิลิโคนแทนน้ำกรด แต่แบตเตอรี่แห้งที่ผลิตใช้ในบ้านเรายังใช้น้ำกรดบรรจุอยู่ในแบตเตอรี่ ด้วยเหตุผลทางภูมิอากาศของบ้านเราที่ค่อนข้างร้อน แต่ก็จะถูกซีลปิดไว้ไม่สามารถเติมน้ำกลั่นได้ ใช้ง่าย ไม่ต้องดูแลรักษาแบตเตอรี่เลย เหมาะกับรถที่ไม่ได้ขับบ่อย
ลักษณะเด่น – มีราคาแพงสุด, อายุการใช้ต่ำสุด, ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
ร้านเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์นอกสถานที่
เขตกทม. แบตเตอรี่ JTK786
บริการเปลี่ยนถึงที่โดยไม่คิดค่าบริการ
สำรองไฟก่อนเปลี่ยนทุกครั้งพร้อมเช็คไดชาร์จ,ไดสตาร์ทและไฟรั่วให้ฟรี
แบตเตอรี่คุณภาพได้มาตราฐาน ราคาถูก
สินค้าใหม่แกะกล่องใหม่ 100%
ชำระเงินปลายทาง เป็นเงินสดหรือโอนผ่านมือถือ
ส่งด่วน ส่งเร็ว จากสาขาที่ใกล้ที่สุด
กดเพื่อโทรสั่งได้เลยครับ
สัญญาณบอกเหตุ แบตเตอรี่ ใกล้หมดสภาพ ต้องเปลี่ยน
เป็นอย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า “แบตเตอรี่” ถือเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งในการสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมันจะมีอายุการใช้งาน 1.5 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน แต่แทนที่จะรอให้เครื่องยนต์น๊อคหมดสภาพแล้วค่อยเปลี่ยน ยีเอส มีวิธีสังเกตอาการที่บ่งบอกถึงสัญญาณเตือนก่อนที่แบตจะหมด ดังนี้
1. เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ จะรู้สึกว่าเครื่องไม่ค่อยมีกำลัง สตาร์ทติดยากกว่าที่เคยเป็น
2. หลังจากจอดรถดับเครื่องแล้วทิ้งไว้สักครู่ หรือดับเครื่องเสร็จแล้วสตาร์ทใหม่ทันที รถจะสตาร์ทติดยาก ต้องพยายามสตาร์ทหลายๆ ครั้งถึงจะติด
3. ไฟส่องสว่างด้านหน้ารถยนต์ไม่ส่องสว่างเท่าเดิม
4. ระบบล็อคประตู และการทำงานของกระจกไฟฟ้าช้าลงกว่าปกติ อืดๆ ไม่เร็วเหมือนเดิม
5. แบตเตอรี่แบบเปียก น้ำกลั่นหมดเร็วกว่าเดิม ต้องเติมถี่ และบ่อยขึ้น
6. ถึงขั้นต้องพ่วงแบตฯ เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ในการสตาร์ทรถยนต์ เพราะสตาร์ทรถไม่ติดเลย
สุดท้าย ผู้ขับขี่เองก็ต้องหมั่นเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย และเมื่อไหร่ที่เกิดอาการเหล่านี้ขึ้น จะได้รู้ว่า นีเป็น 6 สัญญาณเตือนให้คุณเตรียมตัวเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้เลย
ที่มา https://bit.ly/2pwrCUl