ราคาแบตเตอรี่ขั้วจม รถยุโรปเล็ก
ราคาแบตเตอรี่ รถเก๋งเริ่มต้น 1,500 บาท
ราคาแบตเตอรี่ รถกระบะเริ่มต้น 1,900 บาท
ราคาแบตเตอรี่ รถยุโรปเริ่มต้น 2,000 บาท
แบตเตอรี่ขั้วจมรถยุโรปเล็ก ชนิด กึ่งแห้ง MF (maintenance free) LBN1 DIN45
พัฒนามาจากแบตเตอรี่ชนิดเติมน้ำกลั่น ถูกออกแบบมาให้มีการสูญเสียน้ำกลั่นน้อยมาก (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) ด้วยการคิดสูตรผสมแผ่นธาตุใหม่ผสมแคลเซียม (Calcium) ทำให้การระเหยของไอกรดต่ำ ต้องเติมน้ำกลั่นบ้าง และตรวจเช็คอย่างน้อยครึ่งปีครั้ง
ลักษณะเด่น – มีราคาปานกลาง, อายุการใช้งานปานกลาง
ราคาแบตเตอรี่ ราคานี้เป็นราคารวมเทริ์นแบตเตอรี่ลูกเก่าแล้วครับ พร้อมส่งและเปลี่ยนให้ฟรีถึงหน้าบ้านในเขตพื้นที่ให้บริการครับ
ยี่ห้อ | รุ่น | แอมป์ | CCA | ราคา |
PANASONIC | 544L21L | 50 | 370 | 2300 |
GS | LBN1-MF | 43 | 390 | 2450 |
รถยุโรปเล็กที่ใช้กับแบตเตอรี่รุ่นนี้
FORD FIESTA, FOCUS, ECOSPORT
แบตเตอรี่ขั้วจมรถยุโรปกลางชนิด แห้ง SMF (Sealed Maintenance Free Car Battery)
แบบแห้งของเมืองนอกจะใช้เจลหรือซิลิโคนแทนน้ำกรด แต่แบตเตอรี่แห้งที่ผลิตใช้ในบ้านเรายังใช้น้ำกรดบรรจุอยู่ในแบตเตอรี่ ด้วยเหตุผลทางภูมิอากาศของบ้านเราที่ค่อนข้างร้อน แต่ก็จะถูกซีลปิดไว้ไม่สามารถเติมน้ำกลั่นได้ ใช้ง่าย ไม่ต้องดูแลรักษาแบตเตอรี่เลย เหมาะกับรถที่ไม่ได้ขับบ่อย
ลักษณะเด่น – มีราคาแพงสุด, อายุการใช้ต่ำสุด, ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
ราคาแบตเตอรี่ ราคานี้เป็นราคารวมเทริ์นแบตเตอรี่ลูกเก่าแล้วครับ พร้อมส่งและเปลี่ยนให้ฟรีถึงหน้าบ้านในเขตพื้นที่ให้บริการครับ
ยี่ห้อ | รุ่น | แอมป์ | CCA | ราคา |
FB | DIN65 GOLD-SMF | 45 | 580 | 2,550 |
ROVOTO | 544L21 | 45 | 2000 |
แบตเตอรี่หมด แบตเตอรี่เสื่อม เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ ต้องแบตเตอรี่ JTK. 786
โทร 086-9051871 LINE : ID 0869051871
ส่งถึงหน้าบ้านพร้อมเปลี่ยนและติดตั้งให้โดยไม่คิดค่าบริการ ก่อนเปลี่ยนแบตเตอรี่มีบริการสำรองไฟทุกครั้งก่อนเปลี่ยนเพื่อป้องกันการรวนของกล่อง ECU พร้อมเช็คไดชาร์จ เช็คไฟรั่วให้ฟรี แบตเตอรี่คุณภาพมาตราฐานราคาถูก
เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์นอกสถานที่
สินค้าใหม่แกะกล่องใหม่ 100%
สำรองไฟก่อนเปลี่ยนแบตทุกครั้ง
เช็คไดชาร์จและเช็คไฟรั่วฟรี
แบตเตอรี่ทุกลูกรับประกัน 1 ปี
แบตเตอรี่คุณภาพได้มาตรฐาน
สัญญาณบอกเหตุ แบตเตอรี่ ใกล้หมดสภาพ ต้องเปลี่ยน
เป็นอย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า “แบตเตอรี่” ถือเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งในการสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมันจะมีอายุการใช้งาน 1.5 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน แต่แทนที่จะรอให้เครื่องยนต์น๊อคหมดสภาพแล้วค่อยเปลี่ยน มีวิธีสังเกตอาการที่บ่งบอกถึงสัญญาณเตือนก่อนที่แบตจะหมด ดังนี้
1. เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ จะรู้สึกว่าเครื่องไม่ค่อยมีกำลัง สตาร์ทติดยากกว่าที่เคยเป็น
2. หลังจากจอดรถดับเครื่องแล้วทิ้งไว้สักครู่ หรือดับเครื่องเสร็จแล้วสตาร์ทใหม่ทันที รถจะสตาร์ทติดยาก ต้องพยายามสตาร์ทหลายๆ ครั้งถึงจะติด
3. ไฟส่องสว่างด้านหน้ารถยนต์ไม่ส่องสว่างเท่าเดิม
4. ระบบล็อคประตู และการทำงานของกระจกไฟฟ้าช้าลงกว่าปกติ อืดๆ ไม่เร็วเหมือนเดิม
5. แบตเตอรี่แบบเปียก น้ำกลั่นหมดเร็วกว่าเดิม ต้องเติมถี่ และบ่อยขึ้น
6. ถึงขั้นต้องพ่วงแบตฯ เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ในการสตาร์ทรถยนต์ เพราะสตาร์ทรถไม่ติดเลย
สุดท้าย ผู้ขับขี่เองก็ต้องหมั่นเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย และเมื่อไหร่ที่เกิดอาการเหล่านี้ขึ้น จะได้รู้ว่า นีเป็น 6 สัญญาณเตือนให้คุณเตรียมตัวเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้เลย
การรักษาแบตเตอรี่ให้ใช้ได้นานๆและให้ใช้ให้ได้มีประสิทธิภาพ
1.ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อรถไม่วิ่ง เมื่อรถไม่วิ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่โดยตรง ถอดปลั๊กโทรศัพท์มือถือเครื่องนำทาง GPS หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่เสียบเข้ากับพอร์ตชาร์จเมื่อคุณปิดรถ อย่าเสียบปลั๊กกลับเข้าไปจนกว่าคุณจะสตาร์ทรถอีกครั้ง อย่าเสียบปลั๊กทิ้งไว้ในขณะที่รถดับ ซึ่งอาจทำให้พลังงานหมดและส่งผลให้แบตเตอรี่หมด
2.ปิดไฟหน้าและไฟภายในรถเมื่อดับเครื่องยนต์ เช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าไฟเหล่านี้จะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่โดยตรงเมื่อรถไม่วิ่ง เมื่อคุณปิดรถแล้วให้ปิดไฟทั้งหมดที่เปิดอยู่ อย่าสตาร์ทอีกจนกว่าคุณจะสตาร์ทเครื่องยนต์
ตรวจสอบอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไฟหน้าของคุณดับอยู่ก่อนที่จะเดินออกไปจากรถ
3.ขับรถเป็นประจำเพื่อให้แบตเตอรี่ชาร์จอยู่เสมอ ชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์เมื่อคุณขับรถดังนั้นอย่าทิ้งรถไว้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ในแต่ละครั้ง ขับรถอย่างน้อย 20 นาทีสัปดาห์ละครั้งเพื่อให้แบตเตอรี่มีเวลาเพียงพอในการชาร์จไฟ หากคุณขับรถไม่ได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามให้ปล่อยให้รถวิ่งเป็นเวลา 20 นาทีโดยไม่ต้องขยับ ไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่จะช่วยให้แบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟได้
4.ชาร์จแบตเตอรี่ให้อยู่ที่ 12.6 โวลต์ นี่คือแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่ต่ำกว่าระดับนี้ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานจะลดลง รับโวลต์มิเตอร์และต่อสายขั้วบวก (สีแดง) เข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่และขั้วลบ (สีดำ) เข้ากับขั้วลบ กดค้างไว้ที่นั่นสองสามวินาทีแล้วรอให้มิเตอร์อ่านค่า หากประจุต่ำกว่า 12.6 โวลต์ให้เชื่อมต่อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่โดยติดขั้วลบเข้ากับขั้วลบก่อนจากนั้นเชื่อมต่อขั้วบวกเข้ากับขั้วบวก ชาร์จแบตเตอรี่เป็น 12.6 โวลต์สวมถุงมือยางทุกครั้งเมื่อทำการทดสอบและชาร์จแบตเตอรี่
ทดสอบแบตเตอรี่ทุก 6 เดือน ทำอย่างน้อยหนึ่งครั้งเมื่ออากาศหนาวเย็นเนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำจะทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ลดลง
5.ติดที่ชาร์จแบบหยดเข้ากับแบตเตอรี่หากคุณไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ที่ชาร์จแบบหยดเกี่ยวเข้ากับเต้าเสียบและชาร์จแบตเตอรี่ให้คงที่ ซึ่งจะช่วยให้แบตเตอรี่มีประจุที่ถูกต้องแม้ว่าคุณจะไม่ได้ขับรถก็ตาม เป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์สำหรับรถยนต์ที่ไม่ได้ขับบ่อย เชื่อมต่อเครื่องชาร์จแบบหยดแบบเดียวกับที่คุณสามารถเชื่อมต่อเครื่องชาร์จปกติ เกี่ยวขั้วลบเข้ากับขั้วลบก่อนจากนั้นเชื่อมต่อขั้วบวก จากนั้นเสียบที่ชาร์จทิ้งไว้จนกว่าคุณจะขับรถอีกครั้ง ที่ชาร์จแบบ Trickle เป็นที่นิยมในหมู่เจ้าของรถหายากหรือของสะสมที่ไม่ได้ขับบ่อยควรใช้ที่ชาร์จแบบหยดเมื่อรถอยู่ในโรงรถ เพื่อป้องกันไม่ให้เศษขยะเข้าไปใต้ฝากระโปรง